เมนู

อตีตานาคตวาระ ปัจจนิก


บุคคลใดไม่ใช่เคยรู้แจ้งจักขายตนะ, บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักรู้แจ้ง
โสตายตนะ ใช่ไหม ?
บุคคลเหล่าใดจักได้มรรค บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่เคยรู้แจ้งจักขา-
ยตนะ แต่จักรู้แจ้งโสตายตนะ, อรหัตผลบุคคลก็ดี ปุถุชนเหล่าใด
จักไม่ได้มรรค ปุถุชนเหล่านั้นก็ดี ไม่ใช่เคยรู้แจ้งจักขายตนะ และ
ไม่ใช่จักรู้แจ้งโสตายตนะ.
ก็หรือว่า บุคคลใดไม่ใช่จักรู้แจ้งโสตายตนะ, บุคคลนั้นก็ไม่ใช่
เคยรู้แจ้งจักขายตนะ ใช่ไหม ?
อรหัตผลบุคคลไม่ใช่จักรู้แจ้งโสตายตนะ แต่เคยรู้แจ้งรูปขันธ์,
อรหัตมรรคบุคคลก็ดี ปุถุชนเหล่าใดจะไม่ได้มรรค ปุถุชนเหล่านั้นก็ดี
ไม่ใช่จักรู้แจ้งโสตายตนะ และก็ไม่ใช่เคยรู้แจ้งจักขายตนะ.
จบ จักขายตนมูละ โสตายตนมูลี
จักขายตนมูล จบ
อตีตานาคตวาระ ปัจจนิก จบ
ปริญญาวาระ จบ
อายตนยมกที่ 3 จบ

อรรถกถาอายตนยมก


บัดนี้ เป็นการวรรณนา อายตนยมก ที่ท่านรวบรวมไว้แม้
ด้วยอำนาจอายตนะ, ในธรรมมีกุศลเป็นต้น ที่แสดงไว้ในมูลยมกนั้น
เทียว แล้วแสดงไว้ในลำดับแห่งขันธยมก บัณฑิตพึงทราบการกำหนด
บาลี ตามนัยที่ท่านกล่าวไว้แล้วในขันธยมกนั้นนั่นแหละ ก็ในขันธยมก
นั้น มหาวาระ 3 อย่างคือ ปัณณัตติวาระ ปวัตติวาระ ปริญญาวาระ
ย่อมมีฉันใด แม้ในอายตนยมกนั้นก็ย่อมมีฉันนั้น. แม้เนื้อความแห่งคำ
แห่งมหาวาระเหล่านั้นบัณฑิตพึงทราบตามนัยที่ท่านกล่าวไว้แล้วในขันธ-
ยมกนั้นนั่นเอง.
ก็ในอายตนยมกนี้ ปัณณัตติวาระ ท่านกำหนดไว้แล้ว 2 อย่าง
ด้วยอำนาจอุทเทสและนิทเทส. วาระทั้งหลายนอกนี้ ท่านกำหนดไว้
แล้วด้วยอำนาจนิทเทสนั่นเทียว. เพราะฉะนั้นในวาระเหล่านั้น บัณฑิต
พึงทำบทว่า ทฺวาทสายตนานิ ( อายตนะ 12 ) ให้เป็นต้นแล้วเพียงใด
พึงทราบอุทเทสวาระแห่งปัณณัตติวาระว่า มนายตนํ น มโน เพียง
นั้น. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ทฺวาทสายตนานิ ความว่า นี้เป็น
อุทเทสแห่งอายตนะทั้งหลายที่ควรถามด้วยอำนาจยมก. บทว่า จฺกขฺวา-
ยตนํ ฯ เป ฯ ธมฺมายตนํ
ความว่า โดยประเภทนี้เป็นการกำหนด
ชื่อของอายตนะเหล่านั้นนั่นเทียว. ก็ในที่นี้ท่านกล่าวอัชฌัตตรูปายตนะ
( อายตนะที่เป็นรูปภายใน) ทั้งหลายไว้แล้วตามลำดับก่อน เพื่อสะดวก